ผู้คนต่างชื่นชมว่าท่อพลาสติกมีราคาถูกและติดตั้งง่าย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีและการวิจัยตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าวัสดุก่อสร้างสามารถส่งผลต่อคุณภาพของน้ำได้ Jufangpipes ผู้นำในอุตสาหกรรมเชื่อว่าคุณภาพของท่อพลาสติก PPR ขึ้นอยู่กับว่ามีการใช้งานเกินช่วงที่กำหนดไว้หรือไม่ หากใช้งานเกินช่วงที่กำหนด ท่อประปาอาจปล่อยสารมลพิษอันตรายและเป็นพิษที่ละลายเข้าสู่น้ำทันที นอกจากนี้ ท่อที่มีราคาถูกและคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะท่อที่ทำจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแล้ว อาจค่อยๆ ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายที่เรียกว่า 'พลาสติไซเซอร์' และก่อให้เกิดความบกพร่องร้ายแรงตามมา ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่ากลัวมาก สารพิษสามารถทำให้ 'น้ำ' กลายเป็นพิษถึงขั้นอันตรายถึงชีวิตได้
แล้วท่อน้ำโลหะรวมถึงท่อทองแดงล่ะเป็นอย่างไร ท่อเหล่านี้ต้องผ่านตัวกรองหลายสิบหรือแม้แต่หลายร้อยตัว ท่อน้ำโลหะ เช่น ท่อทองแดง มีการใช้งานมายาวนาน บางครั้งใช้การชุบสังกะสีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรอง บริษัทจูฟางเพิพายพ์ให้ความสำคัญกับท่อน้ำโลหะเหล่านี้มาก เนื่องจากทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม รวมถึงเคลือบเซรามิกหรือพอร์ซเลนที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายและสิ่งอื่น ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แม้ว่าปัญหาเหล่านี้อาจดูไม่จริงจัง แต่ก็มีช่วงเวลาที่น้ำมีความเป็นกรดหรือเป็นด่างสูงมาก โดยเฉพาะในกรณีของท่อจูฟางที่มีส่วนประกอบของทองแดง เมื่อเกิดการไหลของน้ำน้อย ท่ออาจถูกกัดกร่อนจนเกิดเป็นทองแดงบริสุทธิ์ (nueca copper) ซึ่งการเติมสารใด ๆ ลงในน้ำในปริมาณน้อยก็อาจเป็นพิษได้ กรณีของทองแดงก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ
หลังจากใช้งานไปเป็นเวลานาน ท่อเหล็กชุบสังกะสีมีแนวโน้มที่จะเกิดสนิมมากขึ้น นอกเหนือจากทำให้น้ำใสเปลี่ยนเป็นน้ำที่มีสีสนิมและมีลักษณะขุ่น สนิมยังสามารถส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยการปล่อยสารพิษที่ละลายน้ำได้ออกสู่สิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของท่อส่งน้ำเซรามิกต่อคุณภาพน้ำ
หลายคนชื่นชอบท่อส่งน้ำเซรามิกเนื่องจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย โดยตามที่ Jufangpipes อธิบายไว้ ท่อส่งน้ำเซรามิกคุณภาพสูงทำมาจากดินธรรมชาติ และผ่านการเผาที่อุณหภูมิสูง พื้นผิวเซรามิกเรียบเนียนภายในทำให้ไม่เกิดการยึดเกาะและไม่เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ท่อเซรามิกปล่อยน้ำออกมาเพียงอย่างเดียว ดังนั้นผลกระทบต่อคุณภาพน้ำจึงแทบจะไม่มีเลย อย่างไรก็ตาม ท่อชนิดนี้มีข้อเสียสำคัญประการหนึ่ง คือ เนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่าและเปราะกว่าวัสดุอื่นๆ ทำให้ยากต่อการติดตั้งและการใช้งานในหลายบริบท สำหรับสภาพแวดล้อมในครัวเรือนและสถานที่อื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำระดับพรีเมียม ท่อเหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม
ท่อส่งน้ำและปัญหาคุณภาพน้ำ
น้ำที่ไหลผ่านท่อเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ ไม่ว่าจะทำจากวัสดุชนิดใด ท่อประปาที่เก่าแล้วมักมีชื่อเสียงในแง่ของปัญหาคุณภาพ เมื่อเวลาผ่านไป ท่อพลาสติกเก่าอาจมีผนังด้านในลอกเป็นขุยและแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ในขณะที่ท่อโลหะเก่าอาจเกิดสนิมหรือมีคราบตะกรัน
เมื่อสารเหล่านี้สัมผัสน้ำที่ไหลอยู่ภายใน จะทำให้น้ำปนเปื้อนและมีรสชาติเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง Jufangpipes เตือนว่าผู้ใช้งานควรสังเกตคุณภาพน้ำในบ้านที่อาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เปลี่ยนสี หรือมีตะกอน เพราะอาจบ่งชี้ว่าท่อประปามีอายุเก่าหรือผุพัง การเปลี่ยนท่อประปาเก่าอย่างทันเวลาจะช่วยเพิ่มคุณภาพน้ำ และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการปนเปื้อนของน้ำและคุณภาพน้ำที่ไม่ดี
การออกแบบและการบำรุงรักษาท่อประปา โดยคำนึงเป็นพิเศษถึงคุณภาพของน้ำ
คุณภาพและการก่อสร้างท่อระบายน้ำมีผลโดยตรงต่อการก่อสร้างระบบสุขาภิบาลที่เหมาะสมและการบำรุงรักษาท่อ ทาง Jufangpipes ได้เน้นย้ำไว้ จากการก่อสร้างระบบ จำเป็นต้องมีการจัดแนวข้อต่อให้ตรงกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อป้องกันมิให้มีสิ่งสกปรกเข้าสู่ท่อโดยไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งนี้รวมถึงการหลีกเลี่ยงข้อต่อที่มีคุณภาพต่ำซึ่งอาจทำให้เกิดการรั่วของก๊าซที่เป็นอันตรายจากท่อได้ การล้างท่อเป็นประจำ ในเรื่องของการบำรุงรักษา ท่อควรได้รับการทำความสะอาดเพื่อขจัดตะกอนและสิ่งสกปรกที่สะสมจากการใช้งานเป็นเวลานาน การป้องกันการกัดกร่อนของท่อจะช่วยลดการสูญเสียคุณภาพของน้ำ ดังนั้นการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันการกัดกร่อนอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับท่อโลหะ การบำรุงรักษาและการก่อสร้างท่อระบายน้ำอย่างทันเวลา ช่วยให้เกิดผลเชิงบวกที่ยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพต่อคุณภาพน้ำ
ควรเลือกซื้อท่อระบายน้ำแบบใดเพื่อรับประกันคุณภาพน้ำที่ดี
เพื่อรับประกันคุณภาพน้ำที่ดี จำเป็นต้องเลือกซื้อท่อระบายน้ำที่เหมาะสม
Jufangpipes แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษาคุณภาพน้ำในพื้นที่ของตนก่อนเป็นอันดับแรก ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่มีน้ำแข็ง ท่อพลาสติก PPR และท่อทองแดงมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีกว่าฟิตติ้งประเภทอื่นๆ ประการที่สอง การเลือกใช้ท่อที่มีใบรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าท่อที่ใช้งานนั้นเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของประเทศ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใดๆ ต่อผู้ใช้งาน ประการสุดท้าย ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ สถานการณ์หรือบริบทในการใช้งาน เช่น สำหรับระบบส่งน้ำร้อน ควรเลือกใช้ท่อที่มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง ส่วนระบบส่งน้ำเย็น ควรเลือกใช้ท่อที่มีความเสถียรสูง หากรวมปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เข้าไว้ด้วยกัน ท่อที่เลือกใช้จะสามารถรักษาคุณภาพของน้ำไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด